วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

บันทึกประจำวันที่ 6 (อาทิตย์ที่ 5 เมษายน 2552)

วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน 2552 [วันอาทิตย์ - วันพระวัดชลประทาน]

แป๊บเดียววันอาทิตย์แล้ว ยังไม่ค่อยได้ทำอะไรเท่าไหร่เลย
วันนี้ไม่มีเรียน ตอนเช้าบิณฑบาตร หลวงพี่เมไม่ได้มา ก็เป็นคนเดินนำบิณฑบาตรเองเลย
จำทางได้แล้วก็สบาย ออกตั้งแต่เช้าเลย โยมบางบ้าน ยังไม่เปิดเลย แต่ส่วนใหญ่
ก็ออกมารอกันตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว ขยันมากโยม อนุโมทนา พอกลับมาก็นั่งที่ลานหินโค้ง
ฟังธรรมะ ฉันเช้า เสร็จกลับกุฏิ ล้างบาตรแล้วก็ออกมาที่ลานหินโค้งอีก

วันนี้ก็ไม่ค่อยฟุ้งซ่านแล้ว เริ่มเข้าที่เข้าทาง เริ่มมีสมาธิดีขึ้น
ทำวัตรเช้า-เย็นวันนี้วันแรกเลยที่ทนนั่งคุกเข่าได้ตลอดรอดฝั่ง ก็รู้สึกดีที่ทำได้
(ส่วนนึงที่ทำได้เพราะท่านแบงค์บอกว่าท่านทำได้ เราเลยฮึดว่าเราก็น่าจะได้)
เวลาสวดอย่างตั้งใจ สวดก็ไม่น่าเบื่อเลย กลับรู้สึกสนุกขึ้นมา
ที่ได้สู้กับความอดทน และได้ยินดีกับความสำเร็จเล็กๆที่ชนะตัวเองได้ด้วย

ตอนบ่ายไม่มีเรียน เลยว่างมาก นอนไปฟักนึง พอตื่นก็ไม่อยากจะนอนต่อ
เลยมานั่งอ่าน หนังสือหลวงพ่อปัญญาที่ท่านสอนพระนวกะไว้ ได้ความรู้หลายอย่างเลย
"มีเวลาว่าง อย่านอน" จำไว้ๆๆ

พรุ่งนี้จะเข้ากรรมฐานแล้ว น่าจะลำบากพอดูอยู่ ต้องพยายามตั้งใจ
ทำให้ดี ให้ได้บรรลุ เกิดผลอะไรซักอย่างขึ้นให้ได้

----------------------------------------------------------------------------------------

การสวดมนต์คือ การระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า ตุณของพระธรรม และ คุณของพระสงฆ์
สวดมนต์แปล อย่างตั้งใจ ได้ทั้ง ศีล สมาธิ และ ปัญญาครบเลย
สวดมนต์ยังเป็นการภาวนาอย่างนึง เป็นบุญที่ดีที่สุดด้วย

การกราบพระพุทธรูป คือกราบคุณความดีของพระพุทธเจ้า
ไม่ใช่กราบเพราะพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อะไร
แต่กราบเพื่อระลึกถึง พระพุทธเจ้า พระธรรมของท่าน
เพื่อเตือนใจตนเอง

พระพุทธรูป , พระเครื่อง มิได้มีเพื่อศักดิ์สิทธิ์

พระพุทธเจ้าก่อนประรินิพพาน ได้ตรัสไว้ว่า ให้ธรรมะเป็นศาสดาของ
เธอต่อไป ไม่ได้ให้พระพุทธรูปเป็นศาสดา

ก่อนนอน นั่งสมาธิ สงบใจให้นิ่งก่อนนอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น